skip to main | skip to sidebar

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

10 นักฟุตบอล ที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก

0 ความคิดเห็น
"เงิน" สำหรับพวกเรา(ผมด้วย) กว่าจะหาได้กันแต่ละบาท ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด(เวอร์ชะมัดเลย) แต่สำหรับนักฟุตบอลอาชีพของประเทศแถวยุโรป เห็นค่าเหนื่อยของนักเตะหลายๆคน ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้พวกเราจะหาได้กันรึเปล่า วันนี้ผมจะขอนำเสนอ 10 นักเตะที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก

1. ซามูเอล เอโต้ ย้ายจากอินเตอร์มิลาน ไปอันซีมาคัชคาล่า ด้วยค่าตัว 28ล้านยูโร รับค่าเหนื่อยไปเนาะๆก็แค่ 20 ล้านยูโรต่อปีเอง

2. คริสเตียโน โรนัลโด้ ผู้กระทุ้ง 38 ประตูในลีกอย่างเดียว ในฤดูกาลที่แล้ว(2010-2011) รับไป12ล้านยูโร

3. เวนย์ รูนี่ ตอนแรกก็งอแงที่จะไม่อยู่ต่อ แต่พอต่อสัญญาใหม่ก็รับไปเน้นๆ 11.5ล้านยูโร

4. ลีโอเนล เมสซี่ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 2 ปีซ้อนและคาดว่าปีนี้ก็คงจะได้อีก ได้ 11ล้านยูโร

5. ยาย่า ตูเร่ ที่เป็นตัวหลักของแมนซิตี้ไปแล้ว รับไป 10.8 ล้านยูโร

6.บาสเตียน ชไวสไตเกอร์ จอมทัพของเสื้อใต้ บาเยิร์น มิวนิครับไป 9.7 ล้านยูโร
ส่วนอันดับที่ 7-10 รับเท่ากันคือ 9 ล้านยูโร
ได้แก่

 กองหลังปัญหารุ้มเร้าของเชลซี จอห์น เทอรี่

กองหน้า ฟรีเซ็กของเอซีมิลาน ซลาตันอิบราฮิมโมวิช

จอมทัพทีมมาดริด ริคาโด้ กาก้า

และสุดท้ายกองหน้าไม่มีที่ลงอย่าง เอมมานูเอล อเดบายอร์
เห็นอย่างนี้แล้วถึงไม่ได้เป็นนักฟุตบอล ได้เมียยังคุ้มเลยครับ
         
       

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปกติดูผลฟุตบอลกันที่ไหนเอ่ย

0 ความคิดเห็น

บางครั้งที่ผมไม่มีเวลาดูบอล ผมก็จะดูผลฟุตบอลย้อนหลังแทน แต่เว็บที่เข้าบ่อยและเข้าเกือบทุกวันก็คือ
soccersuck(ss) โดยคุณเบนฟรีคิก เป็นเว็บที่ผมรู้จักมา ก็เกือบ 4 ปีแล้วครับ แต่ถ้าจะดูไฮไลท์ฟุตบอล ผมจะไปดูที่ rakball เพราะไฮไลท์มาค่อนข้างเร็ว แล้วรายงานผลค่อข้างสดด้วย ส่วนใหญ่แล้วผมจะเข้าสองเว็บนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่วันนี้ผมจะพูดถึง เว็บ soccersuck.com ครับ

โดยส่วนตัวแล้วที่ผมชอบ soccersuck อยู่แล้ว เพราะเนื่อหาค่อนข้างอัพเดทเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ผลของฟุตบอลแต่ละลีก ดาวซัลโว หรือเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับฟุตบอล คนเขียนก็เยอะด้วยครับ และชื่อแปลกของนักฟุตบอลที่ทำเอาผมฮากลิ้งว่าคิดกันไปได้ อ่านแล้วสนุกครับเนื้อหาอัพเดทสม่ำเสมอ แล้วก็เรื่องตามติดนักเตะด้วยว่า นักฟุตบอลแต่ละคนออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างไร หรือพูดผ่านสื่อกันไปมาอย่างสนุก
และที่สำคัญ ที่ผมพลาดไปไม่ได้เลย คือ x-conner ของ soccersuck ครับ ผู้หญิงที่เขาหารูปมาแต่คนสุดยอดครับ น่ารักมาก ถึงผมจะไม่เอาเว็บนี้มาพูดเว็บนี้คนเขาก็เข้าเยอะอยู่แล้วครับ

ปล้วคุณละครับปกติเข้าเว็บอะไรกัน

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การแทงบอลมันมีอะไรบ้าง

0 ความคิดเห็น

ครั้งที่แล้วผมพูดไปถึงเรื่องการแทงเตะมุมของฟุตบอลไปครั้งที่แล้ว (แต่จริงๆแล้วบอลมันก็แทงได้ทุกอย่างนั้นแหละครับ)วันนี้ผมเลยอยากให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการพนันบอลว่าต่อกี่ลูกคืออะไรที่คนพนันเค้าเรียกกัน เอาไว้ประดับความรู้เล่นๆนะครับ
ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า การต่อของบอลนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1.การต่อลูก เช่น หนึ่งลูก ครึ่งลูก ครึ่งควบลูก
2.การต่อเงิน  เช่น  + 10 -10

การต่อลูก แบ่งได้ออกเป็น 3แบบ
แบบ 1 คือ การเสมอ  ซึ่งในการแข่งกันก็จะไม่มีทีมไหนที่ต่อ คิดตามผลการแข่งขัน
แบบ 2 คือ แบบเต็ม ก็จะมี ครึ่งลูก หนึ่งลูก สองลูก

ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆละกัน ทีมอาร์เซนอล ต่อ เอเวอตัน ครึ่งลูก ก็คือ ถ้าอาเซนอลมีผลการแข่งขันที่มากกว่าเอเวอตันตั้งแต่ 1 ลูกขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น 1-0, 2-1, 4-2 คนที่แทงอาร์เซนอลก็จะเป็นคนได้

ส่วนกรณี หนึ่งลูก ก็คือทีมที่ต่อจะต้องมีสกอร์มากกว่า 1 ลูก ไม่งั้นคนแทงก็จะเสียนะครับ
เช่น ลิเวอร์พูลต่อแมนยูหนึ่งลูก (แฟนแมนยูอาจมีเคือง) คนที่แทงลิเวอร์พูลต้องเชียร์ให้ลิเวอร์พลูชนะแมนยู ตั้งแต่ 2 ลูกขึ้นไป ถึงจะได้ ถ้ากรณีที่ลิเวอร์พลูชนะแมนยูได้ลูกเดียว เช่น 3-2 ลิเวอร์พลูต่อ 1 ลูก
ก็จะเป็น 3-3 นะครับ ก็ถือว่าเจ๊ากันไปไม่มีใครได้ไม่มีใครเสีย

แบบ 3 คือ แบบควบ ครึ่งควบลูก ลูกควบลูกครึ่ง หรือ คำศัพท์เฉพาะอย่างแปะปั๊ว(เสมอควบครึ่ง)
ถ้าเราเล่นกรณีนี้ ก็คือ เราจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน เพื่อแบ่งเล่น
เช่น เรียลมาดริด ต่อ บาร์ซ่า ครึ่งควบลูก ก็คือ ถ้าเราเล่น 200 เราก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เราเล่นแบ่ง ครึ่งลูก กับ 1 ลูก กรณีที่มาดริดชนะบาร์ซ่า 1-0 เราก็จะได้ครึ่งหนึ่งจากการแทงครึ่งลูก และเจ๊าอีกครึ่งหนึ่งในการแทง 1 ลูก สรุปแล้วคนที่แทงเรียลมาดริดก็จะได้ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้ามาดริดชนะบาร์ซ่ามากกว่า 2 ลูก คนที่แทงเรียลมาดริด ก็จะได้เต็ม

การต่อเงิน 4 แบบดังนี้ 

1. เสมอ หรือ ขาว ในกรณีต้องบอกด้วยว่าเสมอทีมใด เช่นเสมอเชลซี หรือ เชลซีต่อขาว ใครเล่นเชลซี ถ้าได้จะคิดเงินในอัตราแทง 5 ได้ 4 ส่วนทีมรองจะได้เต็ม แทง 5 ได้ 5 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วทีมต่อยังได้เปรียบอยู่แต่ว่าไม่มากนัก 

2.-10 (ลบสิบ) ทีมที่ต่อและรองจะคิดเงินในอัตราส่วนเท่ากันคือ แทง 5 ได้ 4.5 หรือแทง 10 ได้ 9 

 
3.+10(บวกสิบ) ทีมต่อจะคิดเงินในอัตราส่วน แทง 11 ได้ 8

4.-5(ลบห้า) ฝ่ายต่อจะคิดในอ้ตราส่วน แทง 5 ได้ 5 ฝ่ายรองจะคิดในอัตราส่วน แทง 5 ได้ 4 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วฝ่ายรองดูได้เปรียบนิดๆ


แต่ปัจจบัน อยากที่ผมเคยบอกไปนะครับ ว่ามันแทงทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ใครเป็นฝ่ายเตะก่อน เตะมุมกี่ครั้งขึ้นไป  ฝ่่ายไหนยิงก่อน อะไรอื่นๆอีกมากมาย

"แต่การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย แต่ถ้าจะเล่นก็เล่นได้นะครับ แต่คุณต้องรู้สึกว่าเงินที่จะเล่นนี้ไม่กระทบต่อชีวิตของคุณ  ก็คือเสียแล้วไม่เป็นไร"

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แทงเตะมุมฟุตบอล คิดไปได้

0 ความคิดเห็น
ผมเป็นคนหนึ่งนะครับชอบดูฟุตบอลแมทช์ใหญ่ๆ แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าดูไม่คุ้มค่าเอาซะเลย เตะกันตั้ง 90 นาที ไหนจะรวมเวลาพักครึงอีก ก็ล่อไปซะ เกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว แต่ผลการแข่งขันที่ออกมาดูแล้วมันไม่คุ้มจริงๆ ออกมา 0 - 0 อะไรแบบนี้ถึงจะเล่นกันแบบน่าตื้นเต้นก็เหอะ ฟุตบอลผลถ้าออกมาแบบนี้เป็นคนดูคงไม่ปลื้มซักเท่าไร แต่ถ้าเป็นนักพนันบอลผลออกมาแบบไหน จะสกอร์ออกมาแบบไหนคงไม่สำคัญ แต่ถ้าเป็นผลที่แทงไว้ ก็ถือว่าโอเค
แต่ปัจจุบันนี้การพนันบอล มันไม่ได้มีแค่พนันผลสกอร์อย่างเดียวซะเมื่อไร มันยังมีแทงว่า ใครเริ่มเตะก่อน อะไรอีกมากมาย แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ การแทงเตะมุม ผมต้องยอมรับจริงๆครับว่าเพิ่งรู้ว่ามีการแทงแบบนี้ด้วย ก็ตอนดูบอลที่หอพักนี่แหละครับ เพราะรุ่นน้องที่หอเป็นคนแทง สรุปว่านัดนั้นตอนที่ผมดูบอล คนที่หอไม่ค่อยสนสกอร์ซักเท่าไร ดั๊นไปสนเรื่องการเตะมุมซะงั้น แทนที่จะเชียร์ให้ยิงเข้า กลับเป็นว่าเชียร์ให้เตะยังไงก็ได้แล้วให้บอลออกหลัง ตอนนั้นผมไม่แน่ใจว่าเค้ากำหนดไว้ว่าต้องออกหลังกี่ครั้งถึงจะได้ แต่ตอนที่ผมดูแมทช์นั้น มันได้เตะมุมตามที่กำหนดไว้พอดี เฮกันยิ่งกว่าทีมที่ตัวเองชอบชนะซะอีก - - '
แต่อย่างว่าละครับ การพนันมันมีการพลิกแพลงได้เสมอ เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญในการพนัน เค้าก็ต้องหาวิธีพลิกแพลงต่างที่ให้ได้เงินมาหมุนเวียน

แต่ผมขอฝากไว้นะครับ การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย มันมีแต่ทำให้คนจนลง คนที่จะรวยคือโต็ะพนันครับ

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประวัติฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน

0 ความคิดเห็น
ฟุตบอลบุนเดสลีกา (การออกเสียงภาษาเยอรมัน : [ˌbʊndəs Li ɡaː], Federal ลีก) เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศเยอรมนี โดยลีกสูงสุดมีการแข่งขันทั้งหมด 18 ทีมและมีลีกที่รองลงมาอีก 2ลีก ซึ่งแข่งขันทั้งหมด 50 สโมสร โดยมีการแข่งขันขึ้นตั้งแต่  1970 FC Bayern มิวนิกได้ครองแชมป์ 21 ครั้ง แต่ก็ ก็มีทีมอื่นได้แชมป์ รองลงมา ฮัมบูร์ก, โบรุสเซีย ดอร์ตมุน, เบรเมน, โบรุสเซีย มิตเช่นกลัดบัค สตุ๊ตการ์ตซึ่งเป็นทีมที่ได้แชมป์รองลงมาจาก บาเยิร์น บุนเดสลีกาเป็นหนึ่งในลีคของประเทศชั้นนำ และในปัจจุบันทีมที่ได้คะแนนสูงสุดของลีกในแต่ละฤดูกาลจะได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ ตามการจัดอันดับค่าสัมประสิทธิ์ยูฟ่าของลีก, ขึ้นอยู่กับผลงานล่าสุดในยุโรปล่าสุด. มีแฟนบอลชมการแข่งขันเฉลี่ย 41,802 คนต่อเกมในปี2009-10

ฟุตบอลบุนเดสลีกาเยอรมัน ได้ถูกจัดขึ้นล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆอันเนื่องมาจากปัญหาภายในประเทศ เพราะกว่าจะได้จัดการแข่งขัน ก็ปาเข้าไป 1963 แล้ว เเเชมป์ปีล่าสุดคือ โบรุสเซียดอร์ตมุน ภายใต้การทำทีมของ เจอร์เก้น คอร์ป

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติฟุตบอล ถ้วยของเยอรมัน

0 ความคิดเห็น
หลังจากหายหายตาไปนาน วันนี้เราจะพูดถึงฟุตบอลถ้วยของเยอรมันกันนะครับ โดยฟุตบอลถ้วยของเยอรมันมีชื่อว่า เดเอฟเบโพคาล (เยอรมัน: Deutscher Fußball-Bund-Pokal) เป็นฟุตบอลถ้วยของประเทศเยอรมนี เริ่มจัดในปี ค.ศ. 1934 โดยมีทีมเข้าร่วม 64 ทีม จาก 36 ทีมของบุนเดสลีกาและลีก้า 2เยอรมัน และ 4 อันดับสูงสุดของ ลีก้า 3 จะได้เข้ารอบแรกโดยอัตโนมัติ ส่วนอีก 21 ทีมที่เหลือ จะมากทีมแชมป์ฟุตอบลถ้วยของภูมิภาคต่าง ๆ ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือจะมาจากสมาพันธ์ภูมิภาคที่มีทีมฟุตบอลชายมากที่สุด สำหรับทีมสำรองของทีมต่างๆ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขั้น โดยแชมป์ล่าสุดคือ ชาลเก้04 ซึ่งคุมทีมโดย ราฟ รังนิกส์นั่นเองนะครับ ซึ่งปัจจุบันได้ออกจากการเป็นผูัจัดการทีมแล้วเนื่องจาก สุขภาพไม่เื้อื้ออำนวยนั่นเองครับ

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ตอเรสของผมทำไมถึงทำกับผมยังงี้

0 ความคิดเห็น
ผมเป็นคนหนึ่งที่เชียร์ทีมเชลซี แล้วก็ชอบตอเรสมาตั้งแต่สมัยอยู่ลิเวอร์พลูแล้วนะครับ ต้องบอกว่าตอนได้ตอเรสดีใจมาก น้ำตาจะไหลกันเลยทีเดียว แต่มาดูนัดที่เจอแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่แพ้ไป1-3 ต้องบอกว่าตอเรสก็เล่นพอใช้ได้ทีเดียว และยิงได้ 1ประตูด้วย แต่ที่มันไม่น่าให้อภัยเลยคือการล็อกหลบเดเกอา แล้วยิง ดันยิงไม่เข้า ทั้งๆที่คนใส่คะแนนลงสกอร์บอร์ด จะใส่อยู่แล้ว เล่นเอาแฟนเชลซีอึ้งกันทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะเลี้ยงเข้าสนามยังทำได้เลย วันนี้เลยเอาคลิปนี้มาให้ดูกัน


แต่อย่างว่าละครับ คนเรามันก็มีต้องผิดพลาดกันบ้าง(ก็เชียร์ทีมนี้นี่เนอะ) เพราะแม้เเต่ รูนี่ยังยิงจุดโทษไม่เข้าเลย เพื่อนๆว่าจริงไหมครับ

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ในอังกฤษ

0 ความคิดเห็น

ในแต่ละประเทศนอกจากมีการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศแล้ว ยังมีการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในแต่ละประเทศด้วย ซึ่งฟุตบอลถ้วยที่ผมจะมาพูดในวันนี้คือฟุตบอลถ้วยของประเทศอังกฤษซึ่งก็คือฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพนั่นเอง(อันที่จริงฟุตบอลถ้วยในประเทศอังกฤษ จะมีแบ่งออกเป็น 2 ถ้วยคือฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ และฟุตบอลถ้วยคาร์ลิ่งคัพหรืออีกชื่อที่คนส่วนใหญ่เขาพูดกันก็คือถ้วยมิคกื้เมาส์ แต่ผมจะเอามาพูดในโอกาสต่อไปละกันนะครับ) ฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพนั้น เป็นการเเข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศอังกฤษ ซึ่งการแข่งขันนั้นจะเป็นการแข่งแบบแพ้แล้วออกหรือน็อกเอาท์
จัดการแข่งขันขึ้นในปี ค.ศ 1872 และตั้งชื่อตามสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (Football Association - FA)
ซึ่งในปัจจุบันนั้น มีทีมที่เข้าร่วมการเเข่งขันทั้งหมด 762 ทีม ซึ่งลักษณะการแข่งขันจะเป็นการให้สโมสรที่ระดับต่างกันมีการแข่งขันร่วมกันโดยทีมในระดับล่างของฟุตบอลอังกฤษ จะทำการแข่งแบบแพ้คัดออกในรอบคัดเลือกกันก่อน โดยสโมสรในลีกระดับสูงจะเข้ามาร่วมเล่นในรอบหลังๆ ตัวอย่างเช่นทีมในลีกวัน และ ลีกทู มาเล่นในรอบแรกภายหลังจากรอบคัดเลือกจบ ในขณะที่ทีมจากพรีเมียร์ลีกจะมาร่วมเล่นในรอบที่ 3
ทีมที่แชมป์มากที่สุด คือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 11 สมัย และ อาร์เซนอล 10 สมัย
ทีมที่ได้แชมป์ปีล่าสุด คือ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ทีมร่วมเมืองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

บัลลงดอร์ รางวัลของนักเตะระดับโลก

0 ความคิดเห็น

ฟุตบอลกับผมวันนี้นะครับ จะมาพูดถึงรางวัลที่เป็นที่ใฝ่ฝันของนักเตะระดับโลก นั่นก็คือรางวัลบัลลงอร์นั่นเอง รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป (European Footballer of the Year) หรือรู้จักกันในชื่อ บัลลง ดอร์(Ballon d'Or - ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "ลูกฟุตบอลทองคำ") เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอล ที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี โดยนักฟุตบอลคนนั้นต้องเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลสังกัดยูฟ่า จึงจะมีสิทธิ์ได้รับรางวัล


 รางวัลบัลลงดอร์นั้นเกิดขึ้นในปี 1965 จัดขึ้นโดยนิตรสารฟุตบอลของฝรั่งเศสโดยนักเขียนของนิตรสารนั้นคือกาเบียล ฮาโน ในสมัยนั้นจะมอบให้กับนักเตะที่เป็นชาวยุโรปเท่านั้น แต่ในปี 1995 ก็เพิ่มนักเตะที่มาจากทวีปอื่นด้วย ในปี 1997 นั้นโรนัลโ้ด้เป็นนักเตะนอกทวีปยุโรปคนแรกที่ได้รางวัลนี้ มีนักเตะอยู่ 3คนที่ไ้ด้รางวัลนี้ 3 สมัย คือ โยฮันครัฟ นโปเลียนลูกหนังอย่างมิเชล พลาตินี่และมาโกร์ ฟาน บาสเท่น  แต่ในปี2010 fifa world player of the year ไ้ด้มาขอจัดร่วมกับรางวัลบัลลงดอร์ จึงมีชื่อรางวัลนี้ใหม่ว่า ฟีฟ่าบัลลงดอร์ ซึ่งในปีล่าสุดคนที่ไ้ด้รางวัล ก็คือ เมสซี่ ซุปตาร์จากบาร์ซ่านั้นเองแต่ก็มีข้อกังหาว่าเมสซี่ไม่สมควรไ้ด้รางวัลในปีนี้เพราะผลงานในฟุตบอลโลกไม่เป็นที่ประจักษ์ มีหลานคนบอกว่า ซาบี้ หรือชไนเดอร์สมควรไ้ด้รับรางวัลมากกว่า แต่อาจมาจากการจัดรางวัลร่วมกันของทางฟีฟ่า และ บังลงดอร์จึงมีการเปลี่ยนกรรมการในการให้คะเเนนใหม่้ด้วย(ใช้การโหวตจากผู้จัดการทีม เห็นมีคนบอกมาว่า คนที่โหวตนั้นรู้จักเมสซี่มากกว่าคนอื่นๆจึงโหวตไปทางเมสซี่ซะส่วนมากกไ้ด้รับรางวัลนี้ไป) ซึ่งข้อมูลนี้จริงหรือไม่ก็ต้องอยู่ทีุ่ลยพินิจของแต่ละคนนะครับ แต่ผมมั่นใจว่ารางวัลในปีนี้คงไม่พ้น เมสซี่อีแน่ๆครับ หลังจากพาทีมคว้าัดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2010-2011

ประวัติฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

0 ความคิดเห็น
เราจะพูดถึงฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ หรือโตโยต้า คัพ หรือฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ) ได้เริ่มทำการแข่งขันกันเมื่อปี ค.ศ. 1960 เป็นรายการการแข่งขันฟุตบอลที่จัดขึ้นโดยยูฟ่า และ คอนเมโบล โดยจะเป็นการพบกันระหว่างทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากทวีปยุโรป กับทีมแชมป์โคปา ลิเบอตาดอเรส จากทวีปอเมริกาใต้ ในช่วงแรกปี ค.ศ. 1960-1979 ระบบการแข่งขันของรายการนี้จะเป็นแบบ 2 นัด เหย้า-เยือน (ในช่วงปี ค.ศ. 1960-1968 จะตัดสินด้วยคะแนนจากการพบกันสองนัด ตามแบบที่คอนเมโบล ใช้กันถึงปี ค.ศ. 1987 จากนั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969-1979 จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีการรวมผลสกอร์ 2 นัด ด้วยกฏการยิงประตูในฐานะทีมเยือนแบบยุโรปแทน) จากนั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2004 ได้เปลี่ยนมาเป็นการแข่งขันแบบนัดเดียวที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสปอนเซอร์หลักคือ โตโยต้า คนส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนมาเรียกชื่อการแข่งขันรายการนี้ว่า โตโยต้า คัพ ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ ได้ถูกแทนที่โดยรายการฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งแชมป์ปี2011 ก็คือ บาเซโลน่ายอดทีมจากประเทศสเปนนั้นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติ ฟุตบอล ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ

0 ความคิดเห็น

เราพูดประวัติทั้งฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์และยูฟ่ายูโรป้าลีกไปแล้วถ้าไม่พูดถึงถ้วยนี้มันดูยังไงนั่นก็คือ ยูฟ่าซูเปร์คัพนั่นเอง
ฟุตบอลยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (UEFA Super Cup, ชื่อเดิม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ) เป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรของทวีปยุโรป ในเดือนสิงหาคม ก่อนหน้าที่ฟุตบอลสโมสรยุโรปฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นขึ้น โดยจะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือยูโรเปี้ยน คัพเดิม กับทีมแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก หรือยูฟ่า คัพ เดิม (เมื่อก่อนจะเป็นทีมแชมป์ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ แต่เมื่อถ้วยคัพ วินเนอร์ส คัพ ถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 1999 จึงให้สิทธิ์นี้แก่ทีมแชมป์ยูโรป้า ลีกแทน) ในฤดูกาลก่อนหน้านั้น ซึ่งทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของรายการนี้คือ มิลาน จากอิตาลี่ ที่ได้แชมป์ไป 5 สมัย

ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ หรือยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 ผู้ริเริ่มคือ แอนตั้น วิทแคมป์ นักข่าวและผู้อำนวยการด้านกีฬาของหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ความคิดนี้เริ่มขึ้นเมื่อดัตช์ โททั่ล ฟุตบอล กำลังบูมสุดขีดในยุโรป และกำลังอยู่ในยุคทองของสโมสรจากฮอลแลนด์ (โดยเฉพาะอาแจ๊กซ์) โดยวิทแคมป์เสนอให้นำเอาแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ มาเผชิญหน้ากับแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม การแข่งขันรายการใหม่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ความคิดที่จะเห็นการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันแบบเป็นทางการของวิทแคมป์ ได้ถูกปฏิเสธโดยประธานของยูฟ่า
แต่ถึงกระนั้น ถ้วยใบนี้ก็ยังยืนยันที่จะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อไป โดยเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน สนับสนุนการเงินโดยหนังสือพิมพ์เดอ เทเลกราฟนั่นเอง ซึ่งอาแจ๊กซ์ เอาชนะเรนเจอร์ส คว้าแชมป์สมัยแรกมาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้น การแข่งขันรายการนี้จึงได้รับการรับรองจากยูฟ่า
แม้ว่าระบบการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในบางปี ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ก็ต้องทำการแข่งขันแบบนัดเดียว ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับตารางเวลาในการแข่งขันและเหตุผลทางด้านการเมือง และในปี ค.ศ. 1974, 1981 และ 1985 ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ไม่มีการแข่งขัน
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ได้ทำการแข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล ที่สนามสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ในโมนาโก
เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 1998-99 ยูฟ่าได้ยกเลิกการแข่งขันรายการคัพ วินเนอร์ส คัพ และตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 1999-2000 ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ จะเป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (หรือยูโรเปี้ยน คัพ เดิม) กับทีมแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก (หรือยูฟ่า คัพเดิม)


 

ถ้วยรางวัลของยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมค่อนข้างมาก ถ้วยใบแรกที่มอบให้กับอาแจ๊กซ์นั้น มีขนาดใหญ่กว่าถ้วยของยูโรเปี้ยน คัพ ถ้วยรางวัลรุ่นต่อมามีลักษณะเล็กที่สุดในบรรดาถ้วยรางวัลของฟุตบอลสโมสร ยุโรป โดยมีน้ำหนักเพียง 5 ก.ก. และสูง 42.5 ซ.ม. (ถ้วยรางวัลของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หนัก 8 ก.ก. และถ้วยรางวัลของยูฟ่า คัพ หนัก 15 ก.ก.) และในปัจจุบัน ถ้วยรางวัลใหม่ของยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ มีน้ำหนักอยู่ที่ 12.2 ก.ก.
เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่นๆของยูฟ่า สโมสรที่ได้แชมป์ 3 สมัยซ้อนหรือได้แชมป์ครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสรนั้นโดยถาวร เช่นเดียวกับมิลาน ที่ได้ไปเมื่อปี 2007 และแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพปีล่าสุด(2011) ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนพวกเราก็รู้จักกันดีนั่นคือบาเซโลน่านั้นเองครับ โดยการเอาชนะปอร์โต้

ประวัติ ฟุตบอลลีกเนเธอแลนด์ (ฮอนแลนด์)

0 ความคิดเห็น
ผมลืมไปอีกลีกหนึ่งเลยนะครับ นั่นก็คือลีกของเนเธอแลนด์(ฮอนแลนด์)นั่นเอง
Eredivisie (การออกเสียงภาษาดัตช์ : [ˌ erə.di. vi.zi]; อังกฤษ : กองกิตติมศักดิ์) เป็นฟุตบอลลีกสูงสุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ลีกได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1956 สองปีหลังจากเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพในประเทศเนเธอร์แลนด์ มีการจัดอันดับอยู่ในขณะนี้ลีกที่ดีที่สุดที่เก้าในยุโรปโดยยูฟ่า
การแข่งขันประกอบด้วย 18 สโมสร ซึ่งในแต่ละฤดูกาลจะมีทีมที่แตกต่างกันออกไป โดยเป็นการแข่งขันเป็นแบบระบบเหย้าเยือน ในตอนท้ายของแต่ละฤดูกาลทีมที่ได้คะแนนต่ำสุดจะตกชั้นไปเล่นยังลีกEerste Divisie (ดิวิชั่น 1) และแชมป์ของ Eerste Divisie จะได้ไปเล่น Eredivisieในฤดูกาลถัดไป สองสโมสรที่ได้คะแนนจากด้านล่างของ Eredivisie จะต้องลงไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มกับที่อยู่ลีกดิวิชั่น 1 

 (Eerste Divisie) ซึ่งแบ่งออกเป็น2กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีทีมจาก eredivisie(เป็นอะไรที่แปลกดี) ผู้ชนะการแข่งขันแต่ละกลุ่มเล่นใน Eredivisie ฤดูกาลต่อไปส่วนทีมอื่น ๆ ก็จะตกไปที่Eerste Divisie
ผู้ที่เป็นแชมป์ Eredivisie  เอเอฟซีอาแจ็กซ์ได้รับรางวัลมากที่สุดเรื่อง, 23 (30 รายการระดับชาติ) PSV Eindhoven เป็นไปกับ 18 (21), และเฟเยนูร์ต่อไปนี้ด้วย 9 (14) แชมป์ปีล่าสุด(2010-2011)คือ อาแจ็กซ์ ภายใต้การคุมทีมของ มาร์ติน โยล ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายมาคุมทีมฟูแล่มแล้ว

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติ ฟุตบอลยูโรป้า

0 ความคิดเห็น
ฟุตบอลยูฟ่ายูโรปาลีก (อังกฤษ: UEFA Europa League) มีชื่อเดิม ยูฟ่าคัพ (อังกฤษ: UEFA Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลต่างๆ ในทวีปยุโรป จัดการแข่งขันโดยสมาคมฟุตบอลยุโรปหรือยูฟ่า เริ่มก่อตั้งเมื่อ 18 เมษายน ค.ศ. 1955 ในชื่อ Inter-Cities Fairs Cup ปัจจุบันเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่สำคัญอันดับสองของยุโรป รองจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ปกติทีมที่มีสิทธิ์แข่งขันยูฟ่าคัพคือทีมที่ได้อันดับรองๆ ในฟุตบอลลีกของแต่ละประเทศ (ทีมแชมป์จะได้ไปแข่งยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นรายการใหญ่กว่า) เมื่อ ค.ศ. 1999 รายการยูฟ่าคัพได้รวมกับ คัพวินเนอร์สคัพเป็นรายการเดียว ทำให้สโมสรฟุตบอลที่ชนะการแข่งขันฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศสามารถเข้าร่วมยูฟ่าคัพได้ด้วย
โดยตั้งแต่ฤดูกาล 2009-2010 เป็นต้นไป ฟุตบอลสโมสรยุโรปรายการนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น UEFA Europa League โดยจะใช้การแข่งขันรูปแบบเดียวกันกับยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้มากขึ้น

 การคัดเลือกทีมเข้าแข่งขัน

แต่ละประเทศจะได้โควต้าทีมที่ส่งแข่งขันจำนวนไม่เท่ากัน ซึ่งตัวเลขนี้จะอิงจากข้อมูลสถิติของยูฟ่า โดยประเทศที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันรายการต่างๆ ของยูฟ่ามาก จะได้โควต้าทีมมากกว่า
เมื่อได้โควต้าทีมที่ส่งแข่งขันแล้ว แต่ละประเทศจะมีวิธีการคัดเลือกทีมสโมสรเข้าแข่งแตกต่างกัน แต่จะมีเกณฑ์ทั่วไปที่เหมือนกันดังนี้
  • ทีมที่ได้อันดับในลีกรองจากทีมที่ได้ไปแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
  • ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในประเทศ
  • ทีมที่ได้ที่3จากการเเบ่งกลุ่มของการแข่งขัน ยูฟ่าเเเชมเปี้ยนลีกส์
ทีมที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 2 อย่างข้างต้น ยังมีอีก 2 วิธีในการเข้าแข่งขัน
  • ทีมอันดับรองลงไปอีกสามารถเข้าแข่งยูฟ่าอินเตอร์โตโต้คัพ โดยจะมีคัดเลือก 11 ทีมเพื่อเข้าเล่นในยูฟ่าคัพ
  • ประเทศที่ได้คะแนนแฟร์เพลย์ของยูฟ่าสูงสุดอีก 3 ประเทศจะได้โควต้าเพิ่มอีกประเทศละหนึ่งทีม
คู่แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ปีล่าสุด (2011) คือ บราก้า และปอร์โต้ ซึ่งทั้งสองทีมนี้เป็นทีมที่มาจากลีกโปรตุเกต และผู้ชนะเลิศ คือปอร์โต้ ได้ประตูจาก ฟัลเกา ภายใต้การคุมทีมของ อังเดร วิลลาส โบอาสซึ่งปัจจุบันได้มาคุมทีมเชลซีแล้ว

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติของฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์

0 ความคิดเห็น
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (UEFA Champions League, ชื่อเดิมนั้นคือ ยูโรเปี้ยน คัพ) เป็นการแข่งขันฟุตบอลประจำฤดูกาลของสโมสรต่างๆ ในทวีปยุโรป เป็นรายการการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสร ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ซึ่งจัดการแข่งขันโดยยูฟ่า เริ่มการแข่งขันครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) และเปลี่ยนชื่อมาเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535)
ลักษณะการของแข่งขันรายการนี้ จะนำเอาทีมที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดของแต่ละลีกสูงสุด ของแต่ละประเทศในทวีปยุโรปมาทำการแข่งขันกัน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับว่าลีกไหนได้โควต้ากี่ทีม เช่น พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้โควต้า 4 ทีม, กัลโช่ เซเรีย อา ได้โควต้า 4 ทีม, ลาลีกา ได้โควต้า 4 ทีม และ บุนเดสลีกา ได้โควต้า 3 ทีม เป็นต้น ดังนั้น ทีมที่ชนะเลิศในการแข่งขันรายการนี้ จึงถือได้ว่าเป็นทีมที่เก่งที่สุดของยุโรปในฤดูกาลนั้น

สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุดคือ เรอัล มาดริด (สเปน, 9 ครั้ง) ตามด้วย มิลาน (อิตาลี่, 7 ครั้ง)
เช่นเดียวกับถ้วยรางวัลอื่นๆของยูฟ่า สโมสรที่ได้แชมป์ 3 สมัยซ้อนหรือได้แชมป์ครบ 5 สมัย จะได้รับถ้วยรางวัลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของสโมสรนั้นโดยถาวร เช่นเดียวกับ เรอัล มาดริด ที่ได้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1958, อาแจ็กซ์ ที่ได้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1973, บาเยิร์น ที่ได้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1976, มิลาน ที่ได้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1994 และ ลิเวอร์พูล ที่ได้ไปเมื่อปี ค.ศ. 2005
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในฤดูกาลล่าสุด (2010-11) ซึ่งจัดขึ้นที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นั้น บาร์เซโลน่า จากสเปน เอาชนะแมนยู จากอังกฤษได้ 3-1 ทำให้บาเซโลน่า คว้าแชมป์มาครองได้เป็นสมัยที่ 4 ของสโมสรและได้ 3สมัยในรอบ 5 ปี โดยประตูที่เกิดขึ้น มาจาก เปโดร เมสซี่ บีย่า และรูนนี่

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประวัติ ฟุตบอล ลีกเอิง ลีกสูงสุด ฝรั่งเศส

0 ความคิดเห็น
                                                    
ลีกเอิง (ฝรั่งเศส: Ligue 1) เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของฟุตบอลในประเทศฝรั่งเศส โดยมีลีกรองลงมาคือ ลีกเดอซ์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2475 โดยมีการเล่นต่อเนื่องมาทุกปียกเว้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในอดีตจำนวนทีมที่เล่นในลีกเอิง จะเปลี่ยนไปมาระหว่าง 18 และ 20 ทีม ซึ่งปัจจุบันมีทีมทั้งหมด 20 ทีม และมีการเล่นในแบบการแข่งเหย้าและเยือน ทีมละ 38 นัดเมื่อจบฤดูกาล 3 ทีมอันดับสุดท้ายของตารางจะตกชั้นลงในเล่นใน ลีกเดอซ์ และทีมจากลีกเดอซ์ จะเลื่อนชั้นขึ้นมา ส่วน 3 ทีมแรกของตาราง จะมีสิทธิร่วมเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดย 2 ทีมแรกจะผ่านเข้ารอแข่งขัน ในขณะทีมลำดับ 3 จะเข้าไปแข่งในรอบคัดเลือก ส่วนทีมอันดับที่ 4 จะมีสิทธิเข้าไปเล่นใน ยูฟ่ายูโรปาลีก โดยอันดับ 5 และ 6 จะไปแข่งในรอบคัดเลือกของยูฟ่าคัพ ทีมที่ชนะลีกเอิงมากที่สุดคือ แซง-เอเตียน (Saint-Étienne) ชนะเลิศ 10 ครั้ง ในขณะที่ทีมชนะเลิศติดต่อกันมากที่สุดคือ โอแล็งปีกลียงเนส์ (Olympique Lyonnais) ชนะเลิศ 7 ฤดูกาล (2002-2008)  ส่วนในปี2009-2010 แชมป์คือ โอลิมปิกมาร์กเซย

วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ฟุตบอลลาลีกา สเปน ประวัติ

0 ความคิดเห็น

                                            
ปรีเมราดีบีซีออนเดเอสปาญา (สเปน: Primera División de España) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ลาลีกา (La Liga) เป็นระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพลีกสูงสุดในประเทศ ลาลีกาได้รับการยอมรับว่าเป็นลีกฟุตบอลที่เข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป ใกล้เคียงกับเซเรียอาของประเทศอิตาลีและพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ
ลาลีกาจะเริ่มแข่งขันในเดือนกันยายนไปถึงเดือนเมษายนของปีถัดไป ทีมชนะเลิศในแต่ละปีจะได้สิทธิ์ในการแข่งถ้วย ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา กับทีมที่ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยโกปาเดลเรย์ ทีมที่อันดับดีที่สุด 4 ทีมจะได้รับสิทธิ์แข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
มีสโมสรฟุตบอลเพียง 9 แห่งที่เคยคว้าแชมป์ลาลีกา โดยทีมที่ชนะเลิศจำนวนครั้งมากที่สุดคือ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด 30 ครั้ง และสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา 20 ครั้ง ทีมแชมป์ล่าสุดในฤดูกาล 2009/2010 คือสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา
      ซึ่งโดยสองสโมสรยักษ์ใหญ่นี้ได้มีการแข่งขันซึ่งถือได้ว่าเป็นสโมสรที่แข่งขันกันเอาแชมป์ลีกสูงสุดของสเปนอย่างแท้จริง เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นคะเเนนของทีมทั้งสองนี้ทิ้งคะเเนนอันดับสามแบบไม่เห็นฝุ่น(เหมือนแข่งกันเอาแชมป์แค่2ทีม)และจากแข่งขันที่ผ่านมานั้นทีมอื่นในลีกที่จะต้องมาเจอกับ2ทีมยักษ์ใหญ่ในเเมืองหลวงของสเปนและแคว้นคาตาลันแล้วเหมือนลูกไก่ในกำมือ เพราะระดับของนักเตะที่แตกต่างกันเกินไปและการลงทุนของสโมสร ทำให้บาเซโลน่าและรีลมาดริดเป็นทีมที่ทิ้งห่างทีมคู่แข่งทีมอื่นโดยที่ทีมอื่นไม่ต้องลุ้นแชมป์กันเลยทีเดียว โดยในส่วนของถ้วย ยูฟ่าแชมเเปี้ยนลีกรีลมาดริดเป็นสโมสรที่ได้แชมป์มากที่สุดคือ9สมัย ตั้งแต่แข่งขันมา ส่วนของบาเซโลน่าได้แชมป์3สมัย

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประวัติ ฟุตบอล กัลโช ซีรีส์ อา อิตาลี

0 ความคิดเห็น
Lega Calcio.png

กัลโช่ เซเรีย อา (อิตาเลี่ยน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ หรือคัมปีโอนาโต้ หรือสคูเดตโต้) เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุด ภายในประเทศอิตาลี่ ที่เริ่มทำการแข่งขันกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 ซึ่งเจนัว เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ได้ ในขณะที่โดยรวมแล้ว ยูเวนตุสเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยได้แชมป์ไปถึง 27 สมัย รองลงมาเป็นมิลาน กับอินเตอร์ ที่ได้แชมป์ 17 สมัยเท่ากัน ซึ่งสโมสรที่คว้าแชมป์ได้ทุกๆ 10 สมัย จะได้รับสัญลักษณ์ดาวสีทอง ติดอยู่ด้านบนของสัญลักษณ์ทีมบนเสื้อ 1 ดวง ดังนั้น ยูเวนตุส จึงมี 2 ดาวติดอยู่ด้านบนของสัญลักษณ์ทีมบนเสื้อ ขณะที่มิลาน และอินเตอร์ มีทีมละ 1 ดาว
การแข่งขันรายการนี้ในบางปีนั้นไม่มีแชมป์ ได้แก่ ในปี ค.ศ. 1915-1919 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และปี ค.ศ. 1943-1945 เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 (ในปี ค.ศ. 1944 FIGC มอบแชมป์ย้อนหลังให้กับสเปเซีย) นอกจากนี้ ยังมีการริบแชมป์ของโตริโน่ ในปี ค.ศ. 1927 และของยูเวนตุส ในปี ค.ศ. 2005 และ 2006 เนื่องจากมีการจ้างวานให้ล้มบอล (ในปี ค.ศ. 2006 FIGC มอบแชมป์ให้กับอินเตอร์ ทีมอันดับที่ 3 ในฤดูกาลนั้น)
ส่วนในฤดูกาล ค.ศ. 1921-22 นั้น มีทีมแชมป์อยู่ 2 ทีม คือ โนเวเซ่ ซึ่งรับรองโดย FIGC และโปร แวร์เชลลี่ ที่รับรองโดย CCI
credit : http://www.wikipedia.org/

กำเนิด ประวัติ premier league พรีเมียลีก

0 ความคิดเห็น





เอฟเอพรีเมียร์ลีกเอฟเอพรีเมียร์ลีก (FA Premier League) หรือนิยมเรียกว่า พรีเมียร์ลีก (Premier League) เป็นระบบการแข่งขันฟุตบอลลีกในระดับสูงสุดของประเทศอ ังกฤษ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) ภายใต้การบริหารของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือมีชื่อตามผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการว ่า บาร์เคลส์ พรีเมียร์ชิพ เนื่องจากในปัจจุบัน สนับสนุนโดย บริษัทการเงินบาร์เคลส์

การแข่งขันพรีเมียร์ลีก เป็นที่รวมของ 20 สโมสรฟุตบอลในระดับสูงสุดของอังกฤษเข้าด้วยกัน โดยปัจจุบัน มีเพียง 4 ทีมเท่านั้น ที่เคยชนะเลิศในการแข่งขันรายการนี้ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เชลซี

ประวัติ
แต่เดิมฟุตบอลลีกแห่งนี้ ใช้ชื่อว่า ฟุตบอลลีกดิวิชันหนึ่ง ซึ่งมีจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2431 (ค.ศ. 1888) และถือว่าเคยเป็นลีกฟุตบอลที่ยาวนานที่สุดในโลก โดยในปี พ.ศ. 2535 ในฤดูกาล 1992-93 ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นจากรูเพิร์ธ เมอร์ด็อก (Rupert Murdoch) นักธุรกิจสื่อสารรายใหญ่เจ้าของเครือข่ายสถานีโทรทัศ น์สกาย (BSkyB) พยายามผลักดันให้สโมสรฟุตบอลที่จะลงแข่งขันในดิวิชัน หนึ่งประจำฤดูกาล 1992-93 ถอนตัวออกมาจัดตั้งเป็นพรีเมียร์ลีกทำให้ฟุตบอลลีกสู งสุดของอังกฤษที่มีอายุ 104 ปี ต้องยุติลง ขณะเดียวกันทางฟุตบอลลีกเดิมได้เปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชันสอง มาเป็น ดิวิชันหนึ่ง และดิวิชันอื่นได้เปลี่ยนตามกันไป


ปัญหาเริ่มต้น
ในช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่วงการฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ตกต่ำอย่างมาก เกิดเหตุการณ์หลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องของสนามกีฬาที่มีปัญหา เหตุการณ์อันธพาลลูกหนัง หรือที่เรียกว่าฮูลิแกน ทำลายภาพลักษณ์ของฟุตบอลอังกฤษ ไฟไหม้อัฒจันทร์ วันที่ 11 พฤษภาคม 2528 ที่สนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลแบรดฟอร์ดซิตี ในระหว่างการแข่งขัน มีผู้เสียชีวิต 56 คน เหตุการณ์วันที่ 15 เมษายน 2532 ที่สนามฟุตบอลฮิลส์เบอโรของสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์เวนส์ เดย์ มีผู้คนเหยียบกันเสียชีวิตกว่า 96 คน นอกจากนี้โศกนาฏกรรมเฮย์เซลที่มีผู้เสียชีวิต 39 คน ทำให้ยูฟ่าสั่งห้ามไม่ให้สโมสรจากอังกฤษเข้าร่วมการแ ข่งขันชิง ถ้วยสโมสรในยุโรปเป็นเวลา 5 ปี อันธพาลลูกหนังที่ตามไปเชียร์ทีมที่ชื่นชอบ หลังจากการแข่งขันจะเกะกะระราน เข้าผับดื่มกินจนเมามาย บ้างก็วิวาทกับแฟนฟุตบอลเจ้าถิ่นเกิดเหตุการณ์วุ่นวา ยบางครั้งรุนแรงถึงขั้นจลาจลหรือไม่ก็มีคนเสียชีวิต โดยโศกนาฎกรรมเฮย์เซล์ส่วนหนึ่งมาจากคนกลุ่มนี้เช่นก ัน

หลายเหตุการณ์ทำให้แฟนฟุตบอลไม่สามารถชมการแข่งขันได ้อย่างสงบสุข เนื่องด้วยกลัวจะโดนลูกหลง ประกอบกับสภาพสนามที่ย่ำแย่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือการป้องกันเหตุฉุกเฉินอย่างดีพอ ทำให้ชาวอังกฤษหลายคนตัดสินใจรับชมการถ่ายทอดสดทางสถ านีโทรทัศน์ที่บ้าน แทนที่จะเดินทางมาเชียร์ในสนามดังเช่นอดีต ช่วงทศวรรษ 1980 รายได้ของสโมสรจากค่าผ่านประตูซึ่งเป็นรายได้หลักได้ ลดลงอย่างมาก มีเพียงสโมสรชั้นนำไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ยังคงมีกำไร ในฤดูกาล 1986-87 ทุกสโมสรฟุตบอลมีกำไรสุทธิรวมเพียง 2.5 ล้านปอนด์ พอถึงฤดูกาล 1989-90 รวมทุกสโมสรขาดทุน 11 ล้านปอนด์ ทำให้นายทุนไม่กล้าจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจกีฬาอาชีพนี ้อย่างเต็มที่ หลายสโมสรในช่วงนั้นมีข่าวว่าใกล้จะล้มละลาย

ภายหลังเหตุการณ์ที่สนามฮิลส์เบอโร รัฐบาลอังกฤษได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนเรื่องท ี่เกิดขึ้น โดยมีลอร์ดปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้พิพากษาระดับรองประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะกรรมการ โดยผลการไต่สวนซึ่งเรียกว่า รายงานฉบับเทย์เลอร์ (Taylor Report) ได้กลายมาเป็นเอกสารสำคัญนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั ้งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ เพราะกำหนดให้ทุกสโมสรต้องปรับปรุงสนามแข่งขัน ที่สำคัญคืออัฒจันทร์ชมการแข่งขันต้องเป็นแบบนั่งทั้ งหมด ห้ามไม่ให้มีอัฒจันทร์ยืนเพื่อความปลอดภัยของผู้ชมกา รแข่งขัน โดยทีมในระดับดิวิชัน 1 และ 2 ต้องปรับปรุงให้เสร็จในปี 2537 และ ดิวิชัน 3 และ 4 ให้เสร็จในปี 2542 ส่งผลให้การยืนชมฟุตบอลซึ่งเป็นวัฒนธรรมการชมฟุตบอลข องคนอังกฤษมานาน บางแห่งก็มีชื่อเสียงอย่างเช่นอัตจันทร์ เดอะค็อป ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลต้องจบไป ถึงแม้ว่าในประเทศอังกฤษจะมีสโมสรฟุตบอลทั้งอาชีพและ สมัครเล่นมากที่สุดในโลก แต่สนามฟุตบอลส่วนใหญ่มีสภาพเก่าแก่ทรุดโทรม บางสโมสรในระดับดิวิชั่นหนึ่งหรือดิวิชั่นสองยังคงมี อัฒจันทร์ที่สร้างด้วยไม้ ทำให้การปรับปรุงสนามฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลอังกฤษครั้ งนี้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ท่ามกลางสถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคงเพราะรายได้ลดลง อย่างมาก สโมสรเล็กบางแห่งซึ่งมีผู้ชมน้อยอยู่แล้วจึงใช้วิธีป ิดตายอัฒจันทร์ยืน ส่วนสโมสรใหญ่ที่ฐานะการเงินดีกว่าก็ประสบปัญหาเช่นก ัน เพราะไม่อาจใช้วิธีเลี่ยงปัญหาแบบสโมสรเล็กได้

รัฐบาลอังกฤษในขณะนั้นต้องเข้าช่วยเหลือโดยลดค่าธรรม เนียมหรือภาษีธุรกิจพนันฟุตบอล นำเงินส่วนนี้มาตั้งกองทุนฟุตบอลจำนวน 100 ล้านปอนด์ ให้ฟุตบอลลีกเป็นคนจัดสรรให้สโมสรฟุตบอลซึ่งเป็นภาคี สมาชิกทั้ง 96 สโมสร นำไปพัฒนาปรับปรุงสนามแข่งขันของตนเอง แต่งบประมาณเท่านี้ต้องนับว่าน้อยมาก หากนำมาเฉลี่ยอย่างเท่ากันแล้วจะได้รับเงินเพียงสโมส รละ 1.08 ล้านปอนด์เท่านั้น ขณะที่สโมสรฟุตบอลชั้นแนวหน้าของลีกต้องใช้เงินในการ ณ์นี้สูงถึงกว่าสิบล้านปอนด์ สโมสรใหญ่ในดิวิชั่นหนึ่งจึงกดดันฟุตบอลลีกจัดสรรเงิ นให้มากกว่าสโมสรเล็ก เพราะหากไม่เสร็จทันตามกำหนดอาจจะถูกถอนใบอนุญาตได้
credit:DK_RA

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กติกาของการเล่นฟุตบอล กติกาฟุตบอล

0 ความคิดเห็น
กติกาการเล่นฟุตบอล

สนาม

ขนาดสนาม ต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขาว 110 – 120 หลา กว้าง 70 – 80 หลา
การเขียนเส้น ส่วนกว้างของเส้นไม่เกิน 5 นิ้ว ซึ่งประกอบด้วยเส้นข้าง เส้นประตู ธงมุมทั้งสี่ยอดมน ยาว 5 ฟุต และเส้นแบ่งแดนจุดศูนย์กลาง เขียนวงกลมรัศมี 10 หลา
เขตประตู คือจากเสาประตูออกไปข้างละ 6 หลา และตั้งฉากกับเส้นประตูเข้าไปในเขตโทษ 6 หลา
เขตโทษ คือ จากเสาประตูทั้งสองออกไปข้างละ 18 หลา และตั้งฉากกับเส้นประตูเข้าไปในสนาม 18 หลา และจากจุดกึ่งกลางของเส้นประตูเข้าไปในเขตโทษระยะ 12 หลา เป็นจุดเตะโทษและเขตโค้งวงกลมรัศมี 10 หลา นอกเขตโทษ (เส้นผ่าศูนย์กลางจุดโทษ 9 นิ้ว)
เขตมุม มุมสนามแต่ละแห่งเป็นจุดกลางเขียนโค้ง ¼ ของวงกลม รัศมี 1 หลา
ประตูประกอบด้วยเสา 2 ต้น คาน 1 คาน ถ้าวัดภายในยาว 8 หลา สูง 8 ฟุต และความหนาไม่เกิน 5 นิ้ว บนเส้นประตูห่างจากมุมทั้งสองเท่ากัน

จำนวนผู้เล่น

ต้องมีผู้เล่น 2 ชุด ๆ ละไม่เกิน 11 คน และไม่น้อยกว่า 7 คน และมีผู้เล่นคนหนึ่งเป็นประตู
การเปลี่ยนตัวผู้เล่นจะเปลี่ยนได้ 2 คน อย่างมากไม่ควรเปลี่ยนตัวเกิน 5 คน แต่ขึ้นอยู่กับข้อตกลง
การเปลี่ยนตัวจะเปลี่ยนได้เมื่อลูกตาย และต้องได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินก่อน
สำหนับผู้รักษาประตูจะเปลี่ยนตัวเป็นผู้เล่นในสนาม ต้องแจ้งให้ผู้ตัดสินทราบเมื่อลูกตาย
ถ้าผิดกติกาการเปลี่ยนตัวต้องเตะโทษ 2 จังหวะ ณ ที่ลูกบอลอยู่ขณะที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหยุด และจะต้องถูกคาดโทษด้วย


ผู้กำกับเส้น

ผู้กำกับเส้นทั้งสองคนต้องได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ (การตัดสินเด็ดขาดอยู่ที่ผู้ตัดสิน)
เป็นผู้แจ้งว่าฝ่ายใดมีสิทธิ์จะได้เตะมุม เตะจากประตู หรือทุ่มลูก
ช่วยเหลือผู้ตัดสินและควบคุมการเล่นให้เป็นไปตามกติกา (ผู้ตัดสินสามารถสั่งเปลี่ยนผู้กำกับเส้นได้)
ต้องใช้ธงของเจ้าของสนามที่จัดแข่งขัน


ระยะเวลาการเล่น

ระยะเวลาการเล่นแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนละ 45 นาที และหยุดพักระหว่างครึ่งไม่เกิน 5 นาที (ยกเว้นตกลงเป็นอย่างอื่น)

การเริ่มเล่น

ผู้ตัดสินเป็นผู้เสี่ยงโยนหัวโยนก้อย ผู้ชนะในการเสี่ยงจะมีสิทธิ์เลือกเตะเริ่มเล่นหรือเลือกข้าง
เมื่อผู้ตัดสินให้สัญญาณเริ่มเล่นแล้ว ผู้เล่นคนหนึ่งจะต้องเตะลูกบอลซึ่งตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของสนามเข้าไปในแดนคู่ต่อสู้ไม่น้อยกว่า 1 รอบของลูกบอล และห้ามเล่นลูกบอลซ้ำจนกว่าจะถูกผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน หรือฝ่ายตรงข้ามก่อนจึงจะเล่นต่อไปได้
ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างลูกบอลไม่น้อยกว่า 10 หลา ขณะเตะเริ่มเล่น
เมื่อได้ประตูต้องเริ่มเล่นใหม่ในทำนองเดียวกัน โดยผู้เล่นคนหนึ่งของฝ่ายเสียประตูเป็นผู้เตะเริ่มเล่น
เมื่อเริ่มครึ่งเวลาหลังต้องตั้งต้นเริ่มเล่นใหม่ โดยฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ได้เตะเริ่มเล่นในครึ่งเวลาแรก


การนับประตู

เมื่อลูกบอลได้ผ่านเส้นประตูเข้าไปในระหว่างเสาประตูทั้งสองข้าง และภายใต้คานประตูหมดทั้งลูก โดยผู้เล่นฝ่ายรุกไม่ได้ขว้าง หรือใช้มือ หรือแขนทำให้ลูกบอลนั้นเข้าประตู นอกจากผู้รักษาประตูซึ่งอยู่ภายในเขตโทษของตน
เมื่อเสร็จการเล่นแล้ว ฝ่ายใดได้ประตูมากกว่าเป็นฝ่ายชนะ ถ้าประตูเท่ากันจะเสมอกัน


การล้ำหน้า

ผู้เล่นจะล้ำหน้า ถ้าล่วงหน้าลูกบอลเข้าไปใกล้ประตูของคู่ต่อสู้ นอกจาก

ผู้ล้ำหน้านั้นอยู่ในแดนของตน
มีคู่ต่อสู้สองคนอยู่ใกล้เส้นประตูของเขามากกว่าที่ตนอยู่
ครั้งสุดท้ายฝ่ายู่ตอสู้เป็นผู้ถูกลูกบอลนั้น หรือตนเป็นผู้เล่นลูกบอลนั้นเอง
ผู้ล้ำหน้าได้รับลูกบอลโดยตรงจากการเตะจากประตู เตะจากมุม ลูกทุ่ม หรือลูกบอลที่ผู้ตัดสินทุ่ม (Drop Ball)


การเล่นที่ผิดกติกาและเสียมารยาท

ผู้เล่นคนใดเจตนากระทำผิดข้อหนึ่งข้อใดใน 9 ข้อ จะถูกเตะโทษจังหวะเดียวโดยฝ่ายตรงข้าม และถ้าเกิดในเขตโทษจะต้องเตะโทษ ณ จุดโทษ ดังนี้
เตะ หรือพยายามเตะคู่ต่อสู้
ขัดขาคู่ต่อสู้ คือทำหรือพยายามทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงด้วยการใช้ขา หรือด้วยการหมอบลงข้างหน้าหรือข้างหลัง
กระโดดเข้าหาคู่ต่อสู้
ชนคู่ต่อสู้อย่างรุนแรง หรือน่าหวาดเสียว
ชนคู่ต่อสู้ข้างหลัง นอกจากคู่ต่อสู้นั้นเจตนากีดกัน
ทำร้ายหรือพยายามจะทำร้ายคู่ต่อสู้
ฉุดหรือดึงคู่ต่อสู้
ผลักหรือดันคู่ต่อสู้
เล่นลูกด้วยมือ คือ ทุบ ต่อย ปัด เดาะลูกด้วยมือหรือแขน
ผู้เล่นคนใดกระทำผิดนอกเหนือดังกล่าวในข้อ 1 ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษ 2 จังหวะ

การทุ่ม

เมื่อลูกบอลได้ออกนอกสนามหรือลอยในอากาศก็ตาม ให้ทำการทุ่ม ณ ที่ซึ่งลูกบอลนั้นได้ผ่านเส้นข้างออกไป

ห้ามยกเท้าในขณะทุ่ม
ต้องหันหน้าเข้าสู่สนามในทิศทางที่จะทุ่ม
มือทั้งสองต้องปล่อยลูกบอลพร้อมกัน
ห้ามล้ำเส้น (เหยียบเส้นได้แต่ห้ามเปิดเท้าเกิดช่องว่างในสนาม)
ขณะทุ่มลูกบอลต้อยอยู่เหนือศรีษะและผ่านมาจากท้ายทอย ถ้าทุ่มผิดกติกาให้ฝ่ายตรงข้ามได้ทุ่ม

การเตะจากประตู

เมื่อลูกบอลทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตูไปนอกสนาม นอกจากจะผ่านเข้าระหว่างเสาประตูทั้งสองภายใต้คานประตู ไม่ว่าจะกลิ้งหรือลอยไปในอากาศก็ตาม ฝ่ายรับจะได้ตั้งเตะภายในเขตประตูตรงจุดใดก็ได้

ต้องเตะลูกบอลครั้งเดียวให้ออกนอกเขตโทษ ห้ามส่งให้ผู้รักษาประตูรับในเขตโทษ
เตะลูกบอลครั้งเดียวเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามไม่นับว่าได้ประตู
ไม่มีการล้ำหน้า
ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามห้ามเย้ามาในเขตโทษของผู้ตั้งเตะจากเขตประตู
ถ้าผู้เล่นเตะลูกบอลตั้งเตะออกหลังเส้นประตูนอกเขตโทษตนเอง ให้ตั้งเตะใหม่
ถ้าผู้เตะลูกบอลตั้งเตะออกหลังเส้นประตูนอกเขตโทษของตนเอง ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะจากมุม
ลูกตายและลูกไม่ตาย

ลูกตาย คือ ลูกบอลได้ผ่านเส้นประตูหรือเส้นข้างออกไปนอกสนามหมดทั้งลูก ไม่ว่าจะกลิ้งไปบนพื้นสนามหรือลอยไปในอากาศ หรือเมื่อผู้ตัดสินสั่งให้หยุดการเล่น
ลูกไม่ตายนับตั้งแต่ได้เริ่มการเลนจนเลิกเล่น รวมทั้งกรณีที่ลูกบอลกระดอนจากเสาหรือคานประตู หรือมุมธงเข้ามาในสนาม หรือลูกบอลถูกผู้ตัดสิน ผู้กำกับเส้น ซึ่งอยู่ในสนาม และรวมถึงกรณีที่เข้าใจว่าทำผิดกติกาก็ต้องเล่นต่อไปจนกว่าจะมีการตัดสิน

อุปกรณ์ของผู้เล่น

(ก) อุปกรณ์ของผู้เล่นมีดังต่อไปนี้ คือ เสื้อยืด หรือเสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น ถุงเท้ายาว สนับแข้ง และรองเท้า
(ข) ผู้เล่นจะต้องไม่สาวสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะเป็นอันตรายต้อผู้เล่นคนอื่น ๆ

สนับแข้งจะต้องใส่ภายในถุงเท้ายาว และคลุมอย่างมิดชิด ซึ่งสนับแข้งจะต้องทำด้วยยางพลาสติก หรือสารสังเคราะห์ที่คล้ายคลึงกัน และสามารถป้องกันได้
ผู้รักษาประตูจะต้องสวมเสื้อที่มีสีแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้ตัดสินอย่างเห็นได้ชัดเจน
ผู้ตัดสิน

ผู้ตัดสินต้องได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกติกาการแข่งขันทันทีที่เข้าสนามแข่งขัน และขณะพักการเล่นชั่วคราว ลูกตายหรือระงับการลงโทษ
ตัดสินใจสั่งหยุดการเล่นชั่วคราว ตัดสินใจเตือน คาดโทษ และไล่ออก
บันทึกการเล่น รักษาเวลา ชดเชยเวลาเนื่องจากอุบัติเหตุ หรือเหตุอื่น ๆ และให้สัญญาณต่าง ๆ
เป็นผู้อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าไปในสนามได้
เป็นผู้ชี้ขาดเรื่องลูกฟุตบอลในการแข่งขัน

ลูกบอล

ลูกบอลต้องกลม เปลือกนอกทำด้วยหนังหรือวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น
วัดรอบลูกบอลได้ 27 – 28 นิ้ว
น้ำหนัก 396 – 453 กรัม



การเตะจากมุม

เมื่อลูกบอลได้ผ่านเส้นประตูไปนอกเขตสนาม โดยที่ฝ่ายรับเป็นผู้ถูกลูกบอลนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าจะกลิ้งไปบนพื้นดินหรือลอยในอากาศ นอกจากเข้าไปในประตู

ให้ฝ่ายรุกนำลูกบอลไปเตะในเขตมุม ณ มุมธงใกล้กับที่ลูกบอลออกไป
ห้ามทำให้เสาธงเคลื่อนที่
ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามต้องอยู่ห่างผู้เตะไม่น้อยกว่า 10 หลา
ถ้าเตะลูกบอลครั้งเดียวเข้าประตู ถือว่าได้ประตู
เตะลูกบอลไปถูกคานหรือเสาประตูกระดอนกลับมา ห้ามผู้เตะเล่นซ้ำ
ผู้เตะจะเล่นลูกบอลซ้ำไม่ได้จนกว่าจะถูกผู้เล่นคนอื่นก่อน การเตะโทษ

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

การเตะโทษโดยตรง (จังหวะเดียว) เป็นการเตะครั้งเดียวลูกบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม โดยที่ลูกบอลไม่ถูกผู้ใดก็นับว่าได้ประตู
การเตะโทษโดยอ้อม (2 จังหวะ) เป็นการเตะครั้งเดียวลูกบอลเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามไม่นับว่าได้ประตู เว้นแต่ลูกบอลได้ถูกผู้เล่นคนใดคนหนึ่งนอกจากผู้เตะก่อนจะเข้าประตู ขณะเตะโทษผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอยู่ห่างลูกบอลไม่น้อยกว่า 10 หลา
การเตะ ณ จุดโทษ

จะต้องเตะ ณ จุดโทษ และผู้เล่นทุกคนนอกจากผู้เตะและผู้รักษาประตูของฝ่ายรับต้องอยู่ในสนาม แต่นอกเขตโทษ และห่างจากจุดโทษอย่างน้อย 10 หลา
ผู้รักษาประตูฝ่ายรับต้องยืนให้เท้าทั้งสองไม่เคลื่อนที่บนเส้นประตูระหว่างเสาประตูของตนจนกว่าผู้เตะได้เตะลูกบอลแล้ว
ผู้เตะต้องเตะไปข้างหน้า และจะเล่นลูกบอลครั้งที่ 2 ไม่ได้จนกว่าจะถูกผู้เล่นคนอื่นก่อน และลูกบอลจะต้องกลิ้งไปไม่น้อยกว่า 1 รอบ ลูกบอลจึงจะสมบูรณ์
ขณะจะทำการเตะโทษแล้วหมดเวลาการแข่งขัน ต้องเพิ่มเวลาสำหรับการเตะโทษ ณ จุดโทษ (ซ้ำไม่ได้)
กรณีละเมิดกติกาข้อนี้
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรับละเมิดกติกา ให้เตะใหม่หากครั้งแรกเตะลูกบอลไม่เข้าประตู
ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกละเมิดกติกา นอกกจากผู้เตะครั้งแรกลูกบอลเข้าประตูก็ให้เตะใหม่
ถ้าผู้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษกระทำผิดหลังจากลูกบอลอยู่ในการเล่นแล้ว ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะลูกโทษ 2 จังหวะ ณ ที่ซึ่งการละเมิดกติกาได้เกิดขึ้น